บ้านศิริอยู่ไฟเดลิเวอรี่
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

ขั้นตอนการอยู่ไฟ 

1. การตรวจเช็คร่างกาย เป็นการเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อนการอยู่ไฟ โดยจะมีการตรวจเช็คอาการภายนอก และอาการภายใน รวมถึงการซักประวัติโรคประจำตัว ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตรวจวัดความดันโลหิตว่าอยู่ในสภาวะปกติหรือไม่ (วัดความดันวันแรก) 

2. การอาบน้ำสมุนไพรสด การอาบน้ำสมุนไพรสดมากมาย เช่น ขมิ้น ไพล มะกรูด ตระไคร้ ใบมะขาม ใบส้มเสี้ยว ใบส้มป่อย ฯลฯ ความอุ่นของน้ำสมุนไพรจะช่วยให้รูขุมขนเปิด นับเป็นขั้นตอนการเปิดผิวให้สมุนไพรสารมารถซึมผ่านเข้าสู่ใต้ผิวหนังคุณแม่จะรู้สึกสดชื่น อีกทั้งยังช่วยดับกลิ่นน้ำคาวปลา และช่วยขจัดสิ่งสกปรกตามร่างกาย 

3. การนึ่งหม้อเกลือ เป็นการใช้ความร้อนจากหม้อเกลือผ่านผิวหนังไปทีละชั้นเพื่อให้มดลูกแห้งและเข้าอู่เร็วยิ่งขึ้นช่วยในการขับน้ำคาวปลาและในขณะเดียวกันก็ขับของเสียออกมาตามรูขุมขน ช่วยสลายไขมันส่วนเกิน และช่วยลดสัดส่วนเชิงกรานที่กว้างให้กลับเข้าที่อีกทั้งการคลึงหม้อเกลือตามร่างกายยังช่วยลดอาการปวดเมื่อยได้ 

4. การประคบหน้าท้องด้วยใบพลับพลึงสด จะช่วยลดอาการบวม อักเสบตามร่างกายได้ ซึ่งในสมัยโบราณเชื่อกันว่าในใบพลับพลึงสดมีตัวยาที่จะช่วยสลายเซลลูไลท์และช่วยลดไขมันส่วนเกินได้อีกด้วย 

5. การทายานึ่งหน้าท้องให้ยุบ เป็นตำรับยาโบราณที่มีมานานกว่า 100 ปี เป็นการนำเอาสมุนไพรที่มีรสร้อนกว่า 10 ชนิดมาบดรวมกันแล้วใช้ร่วมกับน้ำกระสายยาทาบริเวณหน้าท้องก่อนที่จะนึ่งหม้อเกลือและประคบอิฐ (ซึ่งในตัวสมุนไพรที่มีรสร้อนนี้จะไปทำหน้าที่เพิ่มความอุ่นเข้าสู่ร่างกายและช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินจึงช่วยให้หน้าท้องยุบด้วยค่ะ) 

6.การประคบอิฐ เป็นการดึงน้ำที่สะสมจากร่างกายให้ระเหยออกมา โดยการผ่านความร้อนจากอิฐ เพื่อช่วยให้น้ำคาวปลาเดินสะดวก ลดอาการอักเสบของมดลูกและลดอาการบวมน้ำ อึกทั้งยังช่วยเสริมในส่วนที่เป็นแนวระนาบที่การนึ่งหม้อเกลือเข้าไปไม่ถึงเพื่อทุกส่วนของร่างกายได้ระบายน้ำส่วนเกินออกมา 

7. การอังก้นกบ เนื่องจากในช่วงเวลาที่คุณแม่ใกล้คลอด อวัยวะในบริเวณอุ้งเชิงกรานจะมีการขยายตัวเพื่อรองรับการคลอดบุตร อีกทั้งเมื่อเด็กมีการกลับหัวก็ยิ่งทำให้เกิดอาการปวดสันหลัง บั้นเอว สะโพก และในขณะที่คุณแม่มีการเบ่งท้องคลอดอวัยวะบริเวณนี้จะมีการขยายตัวแบบเฉียบพลัน ส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าวที่แผ่นหลังร้าวลงไปที่ก้นกบ ดังนั้นการใช้ความร้อนอุ่นๆ จากสมุนไพรสดในการอังก้นกบ จึงเป็นการช่วยให้หลอดเลือบริเวณก้นกบ ไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ช่วยคลายกล้ามเนื้อและช่วยกระชับกล้ามเนื้อหูรูด 

8.การนั่งอิฐ/นั่งถ่าน (สำหรับคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติเท่านั้นค่ะ) เป็นการช่วยสมานแผลบริเวณฝีเย็บให้หายและแห้งสนิทไวยิ่งขึ้นซึ่งตัวสมุนไพรประกอบไปด้วยสมุนไพรและว่านต่างๆ หลายชนิด เช่น เหง้าว่านน้ำ เหง้าว่านนางคำ เหง้าขมิ้น เหง้าไพล มะกรูด ฯลฯ 

9. การประคบก้อนเส้า เป็นประเพณีการอยู่ไฟของชายไทยภาคอีสานซึ่งก้อนเส้าจะช่วยในการซับของเสียออกจากร่างกายโดยก้อนเส้าจะเป็นตัวกลางในการดูดซับของเสียอีกทั้งความร้อนอุ่นๆ จากก้อนเส้าจะช่วยผ่อนคลายอาการแข็งแกร็งของจุดศูนย์รวมประสาทในร่างกายให้คลายตัว 

10. การกล่อมมดลูก เป็นการช้อนให้มดลูกเข้าอู่ แล้วคลึงที่หัวเหน่าให้ปากมดลูกเข้าที่ซึ่งขณะทำจะมีน้ำคาวปลาทะลักออกมา ทำให้คุณแม่รู้สึกสบายอีกทั้งยังเป็นการป้องกันการตกเลือดและกระเพาะปัสสาวะครากได้ด้วยค่ะ 

11. การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เป็นการนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย เพื่อลดการแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อจากการอุ้มท้องนานถึง 9 เดือนของคุณแม่ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้เดินสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วย 

12. การนวดหน้ากดจุด เป็นการนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า กระตุ้นให้เซลล์ต่างๆ ใต้ผิวหนังเกิดการตื่นตัว 

13. การนวดศีรษะคลายเคลียด เป็นการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอ ไหล่ บ่า และฐานกะโหลก 

14. การนวดดึงผม เป็นการนวดให้รูขุมขนบริเวณศีรษะเปิดเพื่อขับของเสียออก ทั้งนี้เป็นการช่วยลดอาการปวดศีรษะและไมเกรน 

15. การนวดกดจุดแนวกำด้น เป็นการนวดเปิดระบบประสาทส่วนบนให้มีการขยายตัวของหลอดเลือด เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้เดินสะดวก และรักษาอุณหภูมิในร่างกาย 

16. การนวดเข้าตะเกียบ(หรือสมัยโบราณเรียกว่าเหยียบสะโพก) เป็นลักษณะการนวดเฉพาะด้านเพื่อกระตุ้นปลายประสาทสัมผัสบริเวณสะโพกให้หดตัว กระชับสะโพกให้เข้าที่ไม่ให้ผายออกมามากเกินควร ซึ่งการนวดเข้าตะเกียบต้องทำกับผู้ที่เชี่ยวชาญเท่านั้นค่ะ เพราะเป็นศาสตร์ที่ตกทอดกันมาแต่โบราณไม่มีในหลักสูตรการเรียนการสอน 

17. การนวดฝ่ามือ เป็นการนวดปรนนิบัติฝ่ามือเพื่อคลายความเมื่อยล้าบรรเทาอาการปวดเมื่อยทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย 

18. การนวดกดจุดฝ่าเท้า เนื่องจากจุดศูนย์รวมประสาทในร่างกายทุกจุดอยู่ที่ฝ่าเท้า ดังนั้นการนวดกดจุดฝ่าเท้าจึงเป็นการนวดกดจุดเพื่อคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายที่แข็งเกร็งจากการตั้งครรภ์และช่วยให้ระบบน้ำเหลืองรวมถึงอวัยวะในการทำงานได้อย่างปกติ 

19. การนวดตัวด้วยน้ำมันงา เป็นการนวดคลายกล้ามเนื้อกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตทั้งนี้ยังช่วยขับของเสียที่ตกค้างภายในให้ออกสู่นอกร่างกาย ช่วยลดอาการเส้นเลือดขอดอาการบวม ตามตำราอายุรเวทน้ำมันงาดิบบริสุทธิ์ ช่วยในการบำรุงผิวพรรณ เนื้อเยื่อ เส้นประสาทและกระดูกอีกทั้งเป็นน้ำมันชนิดเดียวเท่านั้นที่สามารถซึมสู่ผิวหนังได้ทุกชั้นจึงสามารถลดริ้วรอยจากภายในสู่ภายนอกจากการแตกลายของหน้าท้องได้ และเป็นน้ำมันที่มีวิตามิน E สูงมาก จึงช่วยให้ผิวชุ่มชื้น 

20. การนวดสลายเซลลูไลท์ เป็นการนวดลักษณะเฉพาะด้านบริเวณต้นแขน ต้นขา สะโพก และบริเวณส่วนต่างๆ ของร่างกายที่มีการก่อตัวในลักษณะของผิวส้ม เพื่อกระชับกล้ามเนื้อ เป็นการนวดผสมผสานกันในระหว่างการนวดตัวด้วยน้ำมันงาดำบริสุทธิ์ 

21. การประคบตัวด้วยสมุนไพรสด ประคบตามบริเวณกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อลดอาการแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อจากการอุ้มท้อง ซึ่งประกอบด้วยสมุนไพรสดมากมาย 

22. การประคบหน้าอก เป็นการประคบบริเวณต่อมท่อน้ำนมเพื่อกระตุ้นน้ำนมให้มามากขึ้นอีกทั้งเป็นการกระชับทรวงอกไม่ให้หย่อนคล้อยหลังการหย่านมบุตร 

23. การเข้ากระโจมอบตัวด้วยสมุนไพรสด เป็นการขับของเสียออกจากร่างกายทางเหงื่อไอความร้อนของสมุนไพรจะช่วยให้รูขุมขนเปิดปอดและหลอดเลือดฝอยจะขยายตัว การหายใจจะสะดวกขึ้น การไหลเวียนโลหิตจะดีขึ้น กล้ามเนื้อจะผ่อนคลายและไขมันที่สะสมไว้ขณะตั้งครรภ์ก็จะลดลงด้วย อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นน้ำนมให้มามากขึ้นอีกด้วย 

24. การรมตา เป็นการอังดวงตาด้วยสมุนไพรก่อนเข้ากระโจม ซึ่งตัวสมุนไพรจะช่วยบำรุงสายตาและระบบประสาทส่วนบน ช่วยให้ดวงตาสดใส ยืดอายุการใช้งานของดวงตา ลดอาการตาพร่ามัว และช่วยลดอาการตาฝ้าฟางได้ในยามที่เราอายุมากขึ้นเนื่องจากมีส่วนประกอบสำคัญของผักบุ้งสด 

25. การแช่เท้าด้วยสมุนไพรสด เพื่อเป็นการปรับสภาวะร่างกายของคุณแม่ให้สมดุลอีกครั้งด้วยการแช่เท้าในน้ำสมุนไพรอุ่นจัด ประโยชน์ของการแช่เท้าด้วยสมุนไพรนี้จะช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดี และทำให้จุดศูนย์รวมเส้นประสาททั้งหมดของร่างกายได้รับความอบอุ่นอีกครั้งจึงจะทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายอบอุ่นและตื่นตัวอย่างเป็นระบบได้อย่างรวดเร็ว 

26.  การดื่มน้ำสมุนไพร ขิง ช่วยปรับสภาพสมดุลของร่างกายให้กลับสู่สภาวะปกติ กระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตให้เดินสะดวก ช่วยบำรุงน้ำนมและรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้กลับสู่สภาวะปกติ 

27.  การขัดคราบไคลและรอยด่างดำให้จางลง เป็นการขัดตามซอกคอ ซอกรักแร้ ขาหนีบ อันเกิดจากฮอร์โมนของร่างกายในระหว่างตั้งครรภ์ การขัดจะช่วยให้คราบเหล่านั้นหลุดออกได้เร็วกว่าการที่จะรอให้กลไกรของร่างกายเป็นตัวขับเอง 

28. การขัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกไป เป็นการช่วยผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกไปเพื่อเซลล์ผิวใหม่ได้เกิดมาแทนที่ ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาสิวเรื้อรังและไขมันอุดตันบริเวณแผ่นหลังและหน้าอก ซึ่งสมุนไพรที่ใช้เป็นสมุนไพรสดผสมด้วยเกลือสะตุ (เกลือสะตุ คือ เกลือทะเลที่นำมาเผาไฟให้เหลือเฉพาะโครงสร้างของเกลือจึงสรรพคุณในการขัดคราบไขและหนังกำพร้าที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไปได้ในการสมัยโบราณนิยมนำมาเข้าตัวยาเพื่อล้างคราบไขในกระเพาะอาหารและลำไส้) ใช้ร่วมกับการขัดคราบไคลในขั้นตอนที่ 27 ค่ะ 

29. การทำความสะอาดผิวและล้างผิวด้วยน้ำสมุนไพร เป็นการทำความสะอาดผิวหลังจากคุณแม่ขัดเซลล์ผิว

30. การคาดไฟชุดตำรับหลวง ช่วยแก้อาการสะบัดร้อนสะบัดหนาวแก้อาการหนาวสะท้าน แก้อาการตะคริวอีกทั้งเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องยังสามารถช่วยลดหน้าท้องได้อย่างถาวรอีกด้วย (ขณะใช้ไฟชุดสามารถปฏิบัติภาระกิจประจำวันได้ด้วยค่ะ)

พิเศษทำสปาหน้าให้คุณแม่ 1 ครั้ง/คอร์ส ฟรีค่ะ (ปกติราคา 1,000 บาท"ใช้เวลาประมาณ 60 นาทีค่ะ")

  


Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 33,883 Today: 4 PageView/Month: 7

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...